ม.รังสิต ชูยุทธศาสตร์ 5 ปี เดินหน้าการศึกษาขับเคลื่อนองค์กร

ม.รังสิต ชูยุทธศาสตร์ 5 ปี เดินหน้าการศึกษาขับเคลื่อนองค์กร

มหาวิทยาลัยรังสิต ปักหมุดยุทธศาสตร์ 5 ปี ขับเคลื่อนมหาวิทยาลัย วางเป้าหมายมุ่งผลิตบัณฑิตให้มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของพลเมืองโลกที่ตื่นตัว เน้นให้ความสำคัญกับความต้องการของนักศึกษา เปิดพื้นที่สนับสนุนการเรียนรู้ เป็นมหาวิทยาลัย 24 ชั่วโมง โดยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของ Digital Transformation ที่ครอบคลุมทุกหลักสูตร เพื่อเพิ่มความหลากหลายในวิชาชีพ พร้อมก้าวสู่ Hub ใหม่ของการศึกษาในอนาคต

ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า มหาวิทยาลัยรังสิตมองว่า นวัตกรรม เป็นธงหลักในการพัฒนานักศึกษาให้มีความสามารถสูงและครอบคลุมถึงมิติต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องใหม่ขององค์กร ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ใช้ขับเคลื่อนวิทยาลัยให้แข็งแกร่ง เพราะนอกจากงานวิจัยมหาวิทยาลัยต้องสร้างนวัดกรรมที่องค์กรและสังคมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ และสิ่งสำคัญไปกว่านั้นคือ การมอบทักษะวิชาชีพและวิชาชีวิตที่หลากหลายให้แก่ผู้เรียน โดยให้ความสำคัญกับความต้องการการเรียนรู้ของนักศึกษาทุกด้านกับการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย

โดยวางทิศทางและการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยรังสิต 5 ปีหลังจากนี้ให้มีความพร้อมในทุกด้าน ได้แก่

1. สร้างความเป็นเลิศทางการศึกษาและการผลิตบัณฑิต

2. สร้างความเป็นเลิศทางวิจัย งานสร้างสรรค์ และนวัตกรรม

3. สร้างความเป็นเลิศด้านการบริการวิชาการและการฝึกอบรม

4. ชี้นำการรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม และ

5. บริหารจัดการให้เป็นองค์กรแห่งความเป็นเลิศและองค์กรแห่งความสุข ซึ่งทุกหน่วยงานภายในองค์กรร่วมกันขับเคลื่อนทั้งคุณภาพการศึกษา และความพร้อมในทุก ๆ ด้านเพื่อให้เราสามารถก้าวไปสู่ใจนักศึกษา ตามแนวทางที่เราวางไว้คือ “ดีมาก-หลากหลาย-24 ชั่วโมง”

สอดรับกับทางผศ.ดร.นฤพนธ์ ที่ระบุว่า ปัจจัยที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใน 5 ปีข้างคือ เรื่องของความคาดหวังสมรรถนะใหม่ในด้านอาชีพ ความต้องการกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของ Digital Transformation ที่ครอบคลุมทุกหลักสูตร และนักศึกษาต้องการหลักสูตรและการเรียนรู้ที่เพิ่มความหลากหลายในวิชาชีพ ซึ่งมหาวิทยาลัยมีการปรับตัวในเรื่องหลักสูตรการเรียนการสอนที่มีความหลากหลายมากขึ้น นักศึกษาไม่ได้เรียนเพียงแค่ทฤษฎี แต่สามารถลงมือปฏิบัติได้จริง เพื่อเรียมพร้อมสู่โลกของการทำงานได้อย่างมืออาชีพ ตามแบบฉบับ Practical Universiy รวมทั้งเรื่องของรูปแบบการบริหารจัดการองค์กรก็ต้องเป็น Smart Organization เพื่อขับเคลื่อนไปพร้อมกัน และสิ่งที่เราให้ความสำคัญคือ นักศึกษา โดยเปิดพื้นที่การเรียนรู้ให้นักศึกษาได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้มหาวิทยาลัยรังสิต มีกลุ่มนักศึกษาต่างประเทศมาเรียนเพิ่มมากขึ้นในทุกปี แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยจะเป็น Hub ใหม่ของการศึกษาในอนาดต

ม.รังสิต ชูยุทธศาสตร์ 5 ปี เดินหน้าการศึกษาขับเคลื่อนองค์กร

นอกจากนี่รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ ได้กล่าวถึงความเชื่อมั่นว่า เมื่อเปิดพื้นที่การเรียนรู้เป็นมหาวิทยาลัย 24 ชั่วโมง ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ และเพื่อให้นักศึกษา บุคลากร รวมทั้งผู้ปกครองรู้สึกอุ่นใจจึงได้จัดตั้ง สำนักงานตำรวจมหาวิทยาลัยรังสิต (ตร.ม.) เพื่อดูแลป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่โดยรอบสถานศึกษา โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมหาวิทยาลัยรังสิตร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะเพื่อปฏิบัติงานด้านการดูแลความปลอดภัย ทั้งยังมีเรื่องของระบบการเฝ้าระวัง ระบบการตรวจตราความเรียบร้อยในพื้นที่โดยรอบ และการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการช่วยกำกับดูแล เฝ้าระวัง และสามารถแจ้งเหตุได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ผศ.ดร.ปถมาพร กล่าวว่า ด้วยหลักสูตรการเรียนการสอนที่หลากหลายทำให้ที่ผ่านมามีผลงานวิจัย และนวัดกรรมที่โดดเด่นและเป็นที่ยอมรับ อาทิเช่น ความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อการแพทย์ของวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ ,ผลงานวิจัยและนวัตกรรมของวิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดแบบไม่ต้องเจาะเลือดชนิดพกพา ผิวหนังเทียมที่ทำจากเจลาดินด้วยเทคนิดการพิมพ์ซีวภาพสามมิติสำหรับการรักษาแผล เป็นต้น นอกจากนี้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนในสิ่งที่อยากเรียนได้ เช่น เรียนหมอแต่อยากเรียนดนตรีควบคู่ไปด้วยก็ได้ เรียนวิศวะแต่อยากทำสื่อเป็นก็สามารถเลือกเรียนนิเทศศาสตร์เป็นวิชาโทได้ เรียกว่าเป็นการผสมผสานหลายวิชาแบบองค์รวม โดยก้าวข้ามข้อจำกัดทางการศึกษา เป็นการเติมเต็มการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้เรียนรู้สิ่งใหม่ที่และสามารถนำความรู้ไปสู่การประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้

ผศ.ดร.นเรฏฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ฃมหาวิทยาลัยรังสิต ได้ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) ในการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อสร้างสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดีในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาหลักหก (LakHok Development Center: LHDC) ขึ้นเพื่อพัฒนากลไกการดำเนินงานร่วมทุนที่ยั่งยืน และเกิดเป็นแหล่งทุนระยะยาวสำหรับการดำเนินงานสร้างสุขภาวะของประชาชนจังหวัดปทุมธานี เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการดำเนินงานของบุคคล ชุมชน หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาวะ รายได้ สิ่งแวดล้อม และสังคมของจังหวัดปทุมธานีสู่พื้นที่สุขภาวะที่ดีและยั่งยืน อีกทั้งมุ่งเนันสรรหาและจัดสรรงบประมาณเพื่อการสร้างอาชีพและรายได้แนวใหม่ตามแนวคิดเศรษฐกิจฐานรากเพื่อสร้างสุขภาวะให้กับนักศึกษาที่กำลังจะจบ และวางเป้าหมายเพื่อติดอาวุธให้นักศึกษาสามารถหารายได้โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบการสมัครงาน

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ pradubyon.com

แทงบอล

Releated